Present Simple
“ปัจจุบันเป็นจริง ประจำ ไม่ระบุเวลาแน่นอน V.1 Present Sim”
คือ Tense ที่ใช้พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เกิดขึ้นทั่วๆไปในปัจจุบัน เกิดขึ้นเป็นประจำ สม่ำเสมอ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ หรือ พูดถึงนิสัย บางทีก็ใช้พูดถึงตารางเวลา
“Present” แปลว่า ปัจจุบัน “Simple” แปลว่า ง่ายๆ ที่ง่ายก็เพราะโครงสร้างของ Tense นี้ง่ายมากๆนั่นคือ ‘ประธาน + กริยาช่องที่ 1’
ตัวอย่าง
- เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ปรากฏการณ์ต่างๆ เช่น
- The Earth revolves around the Sun. (โลกหมุนรอบพระอาทิตย์)
- Water freezes at zero degrees. (น้ำแข็งตัวที่ 0 องศา)
2. เรื่องราวทั่วๆไปในปัจจุบันของเรา เช่น
- My name is….I’m 18 years old. I‘m a student. I live in Bangkok. I like to eat ice cream. I want to visit the USA and England. (ฉันชื่อ…ฉันอายุ 18 ปี ฉันเป็นนักเรียน ฉันอยู่ในกรุงเทพ ฉันชอบกินไอศกรีม ฉันอยากไปเที่ยวอเมริกาและอังกฤษ)
3. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ หรือเกิดขึ้นเวลาเดิมซ้ำๆ เช่น
- I usually go to school by bus. (ปกติฉันไปโรงเรียนโดยรถเมล์)
4. บอกเส้นทางหรือคำเตือน เช่น
- Go straight on till you see the museum then turn right. (เดินตรงไปจนกว่าคุณจะเห็นพิพิธภัณฑ์แล้วค่อยเลี้ยวขวา)
5. บอกตารางเวลา เช่น
- The train leaves at 7 PM. (รถไฟออกเวลา 1 ทุ่ม)
Keywords
*เราจะเห็นคำเหล่านี้ในประโยค Present Simple Tense*
Every day = ทุกวัน
Every year = ทุกปี
Always = เสมอ
Usually = ตามปกติ
Normally = เป็นประจำ
Often = บ่อยๆ
Sometimes = บางครั้ง
Occasionally = บางโอกาส
Seldom = นานๆครั้ง
Hardly ever = แทบจะไม่เคย
Never = ไม่เคย (คำนี้อาจพบใน Perfect Tense ได้เช่นกัน V.to have+never+V.3)
โครงสร้างประโยคบอกเล่า
ประธาน + V.1
V.1 คือ กริยาช่องที่ 1 ต้องเติม s,es หลังกริยา ถ้าประธานเป็นเอกพจน์
I, You, We, They, ประธานหลายคน (พหูพจน์) + V.1
He, She, It, ประธานคนเดียว (เอกพจน์) + V.1 (s/es)
ตัวอย่าง
- They play the guitar. (พวกเขาเล่นกีต้าร์)
She plays the guitar. (เธอเล่นกีต้าร์)
2. The boy likes his school. (เด็กผู้ชายคนนั้นชอบโรงเรียนของเขา)
The boys like their school. (เด็กผู้ชายพวกนั้นชอบโรงเรียนของพวกเขา)
โครงสร้างประโยคคำถาม
กริยาช่วย + ประธาน + กริยาหลัก +…?
ตัวอย่าง
- Does he still live in Bangkok? (เขายังอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ หรือเปล่า)
โครงสร้างประโยคปฏิเสธ
ประธาน + กริยาช่วย + not + กริยาหลัก
ตัวอย่าง
- He doesn’t live in Bangkok anymore. (เขาไม่ได้อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯอีกต่อไป)
กฎคือ
- กรณีที่ไม่มีกริยาช่วยในประโยค
ประโยคคำถาม: ใส่ do/does เข้าไปหน้าประโยค แล้วเปลี่ยนกริยาหลักเป็น Infinitive Verb (Inf.V.= กริยาไม่ผันรูปไม่เติม s/es/ed/ing)
ประโยคปฏิเสธ: ใส่ do/does เข้าไปตรงตำแหน่งกริยาช่วยตามด้วย not แล้วเปลี่ยนกริยาหลักเป็น Infinitive Verb
ตัวอย่าง
บอกเล่า: She plays the piano every night. (เธอเล่นเปียโนทุกคืน)
คำถาม: Does she play the piano every night? (เธอเล่นเปียโนทุกคืนหรือเปล่า)
ปฏิเสธ: She does not play the piano every night.
2. กรณีที่มีกริยาช่วยในประโยคแล้ว
ประโยคคำถาม: ใช้กริยาช่วยนั้นขึ้นต้น
ประโยคปฏิเสธ: ใส่ not ตามหลังกริยาช่วยได้เลย
ตัวอย่าง
บอกเล่า: It is a cat. (มันคือแมว)
คำถาม: Is it a cat? (มันคือแมวหรือเปล่า)
ปฏิเสธ: It is not a cat.
1 Comment
Tenses ทั้ง 12 สรุปเข้าใจง่าย - English Down-under
[…] Present Simple Tense (Subject + V.1) […]